Sunday, September 9, 2007

เหมือนดวงจันทร์ในฟากฟ้าที่ไม่มีใครขโมยไปได้

การทิ้งงานทางโลกไม่ได้แปลว่าออกจากโลก เพียงแต่สิ่งสำคัญอันดับแรกของชีวิตเปลี่ยนไป การปฏิบัติธรรมไม่ได้แปลว่าต้องหันหลังให้แก่โลกแล้วออกบวช ไม่แต่งงาน ไม่กินเนื้อสัตว์ กินอาหารมื้อเดียว ไม่คบหาสมาคมกับใคร ไม่ดูหนังฟังเพลง การปฏิบัติธรรมที่แท้คือการฝึกฝนจิตโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อการตรัสรู้ การกระทำภายนอกเป็นเพียงสิ่งช่วยเหลือให้เราประคองจิตให้ผ่องแผ้ว การตั้งจิตภายในเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

เมื่อเราตั้งจิตที่จะหลุดพ้น การกระทำภายนอกทั้งกายและวาจาจะตามมา เราจะไม่มีวันหลงทาง เราจะไม่มีวันทำอะไรผิดๆ ด้วยเหตุนี้ เราจึงอยากมีครู เพราะครูเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าบนโลกมนุษย์ ครูเป็นเสมือนประทีปส่องนำทางทำให้เราเห็นหนทางของการเข้าถึงพุทธภาวะภายในอันเป็นสภาวะกระจ่างใสและเป็นหนึ่งเดียวกับศูนยตา หนึ่งเดียวกับธรรมชาติที่กว้างใหญ่ไพศาล

การปฏิบัติธรรมที่แท้เกิดขึ้นในทุกๆสถานการณ์ อยู่ในจิตของเราเหมือนดวงจันทร์ในฟากฟ้าที่ไม่มีใครสามารถขโมยเอาไปได้ การปฏิบัติธรรมไม่ได้เกิดขึ้นเพียงในห้องพระ ในระหว่างเรานั่งสมาธิด้วยมือประสานบนตัก เบื้องหน้าพระพุทธรูป หรือในระหว่างฟังธรรม การปฏิบัติธรรมเกิดขึ้นในทุกสภาวะ ไม่ว่าเราจะกำลังทำงาน กินข้าว ขับรถ เจ็บป่วย นอนหลับ หรือแม้แต่ขณะกำลังดูหนัง ดูละคร

ด้วยจิตที่ไม่เคยแยกจากครู ด้วยทัศนคติที่จะช่วยสัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้น ทุกอย่างที่เราทำ ทุถคำพูดที่เรากล่าว ทุกความคิด คือการปฏิบัติธรรมทั้งสิ้น

No comments: