Laugh at Your Own Stupidity!
เช้านี้ตื่นมาด้วยจิตใจเบิกบาน การประชุมใหญ่ทางภาษาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยสำเร็จลงด้วยดี แม้ว่าในวันประชุมจะมีความขลุกขลักเพราะไฟดับกลางครันในระหว่างประชุม และต้องเปลี่ยนตัวพิธีกรอย่างกะทันหัน ได้รู้สึกถึงความเครียดและวิธีการเอาชนะความเครียด เมื่อเกิดปัญหา อย่าตกใจ แก้ปัญหาโดยทันที ไม่มีปัญหาใดที่แก้ไม่ได้ แล้วเมื่่อปัญหาแก้ได้แล้ว จงอย่าคิดถึงปัญหานั้นอีก มองปัญหาว่าคือบทเรียนสอนธรรมะแก่เรา ทำให้เราเป็นคนมีจิตใจหนักแน่นขึ้น มีปัญญามากขึ้น
ในโลกทุกวันนี้ ผู้คนปล่อยตัวเองให้เป็นทาสของปัญหา เมื่อสิ่งต่างๆไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หลายครั้งพวกเขาผิดหวัง เศร้า แต่บางครั้งพวกเขาก็โกรธกับสถานการณ์ มีความกังวล จนเกิดเป็นความเครียด หน้าตาหม่นหมอง ไม่รู้จักยิ้ม ไม่รู้จักหัวเราะ ชาวทิเบตสูญเสียประเทศ คนจำนวนมากยากจน ไม่ได้รับการศึกษา ไม่มีเสื้อผ้าใหม่ๆใส่ แต่พวกเขาไม่ปล่อยตัวเองให้เป็นทาสของความทุกข์ พวกเขาเล่าเรื่องขำขัน คุยเล่นสนุกสนาน ปฏิบัติธรรมด้วยจิตใจเบิกบาน สายตาของพวกเขาที่ทอดมองไปข้างหน้าเต็มไปด้วยความหวัง แม้ว่าชีวิตในวันนี้จะไม่ดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายที่สุด
ขอพวกเรา ผู้เป็นคนในสังคมสมัยใหม่ จงอย่าปล่อยให้ชีวิตจมอยู่ในความทุกข์ ขอพวกเรารู้จักมีความหวังเช่นชาวทิเบต ยิ้มรับสถานการณ์ที่หม่นหมอง หัวเราะกับความโง่เขลาของตัวเอง กล้าเดินบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยขวากหนาม กล้าตกหลุมเพื่อจะลุกขึ้นเดินไปข้างหน้าอย่างทรนง
Tuesday, September 11, 2007
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment