Tuesday, August 21, 2007

Happiness and the present moment (2)

When we stop, look and contemplate, life presents itself in a new way. Happiness is in the present moment. This reflection by Jampa Nyima is a reaction to my post on the same theme. It's created out of our devotion to our teachers.

หยุด... นิ่ง... แล้วดู

“ขอบคุณที่ทำให้คนพูดถึงความสุข”

เป็นข้อความที่อาจารย์ประพจน์เขียนไว้บนบอร์ดที่จัดไว้ให้สำหรับแสดงความคิดเห็น

ข้อความนี้ทำให้ฉันนึกถึงที่อาจารย์กฤษดาวรรณเล่าเรื่องเมื่อ 23 ปีก่อน ครั้งที่ศาสตราจารย์โบลเฟลด์ได้ชี้ให้ลูกศิษย์หยุดดูหยดน้ำมันเล็กๆ หยดหนึ่งซึ่งทอประกายรุ้งเลื่อมพราย บนถนนแคบๆ ที่คลาคล่ำด้วยผู้คนและจักรยานในนครปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศที่มีประชากรกว่าพันล้านคน และกำลังก้าวเข้าสูความเป็นทุนนิยมอย่างสุดขั้ว

สิ่งที่อาจารย์โบลเฟลด์ได้ปลูกลงไปในใจของลูกศิษย์ คือ คุณค่าแห่งปัจจุบันขณะของการหยุด... นิ่ง... แล้วดู

เพื่ออะไร

เพื่อจะมองเห็นและชื่นชมความงดงามที่เรียบง่าย กลมกลืน และศานติ ซึ่งซุกซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบๆ และรอคอยให้ใครสักคนไยดีที่จะมองเห็น

ดังเช่นที่ท่านพุทธทาสกล่าวว่า เมื่อจิตว่าง เราจะได้ยินหญ้าพูด

มหากวีอังคาร กัลยาณพงศ์ก็กล่าวไว้เช่นกันว่า กาพย์กลอนอันอ่อนหวานมิได้มีอยู่ในเพียงถ้อยคำ แต่อยู่ในแสงอุษายามอรุณรุ่ง หยาดน้ำค้าง และช่อบุปผาลดามาลย์

ธรรมชาติ คือ ครูของมนุษย์

ท่ามกลางกระแสของสรรพสิ่งที่ไหลเร่งรุด เคลื่อนไปๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วไม่มีสิ่งใดอาจต้านทาน ทั้งโลกกายภาพชีวภาพ สังคม จิตใจของมนุษย์ จักรวาล และสังสารวัฏ ในโลกที่กำลังทุรนร้อนอยู่ด้วยความหวาดหวั่นต่ออนาคต และเจ็บแค้นกับอดีต ผู้คนกำลังเอารัดเอาเปรียบ ผูกพยาบาท เบียดเบียนทำร้าย ลงมือเข่นฆ่าประหัตประหารกันอย่างบ้าคลั่ง ปัจจุบันขณะเล็กๆ ของการหยุด... นิ่ง... แล้วดูรุ้งที่เริงระบำอยู่บนผิวของหยดน้ำมันเล็กๆ กลางถนน คงไม่ใช่สิ่งที่ไร้ความหมาย

เพราะว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เพียงการประจักษ์ชื่นชมความงดงามของภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า แต่เป็นการที่ใจดวงหนึ่ง (หรือหลายๆ ดวงในกรณีนี้) ได้กลับหวนคืนสู่ใจของตนเอง กลับสู่ปัจจุบันขณะ เป็นอิสระจากอดีตและอนาคต เป็นอิสระจากความหวาดกลัว ความผูกโกรธเจ็บแค้น กลับมาสู่คุณค่าของความสุขเล็กๆ ในใจของแต่ละคนในปัจจุบัน อันเป็นศักยภาพสูงสุดที่มนุษย์ไปถึงได้เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย

ธรรมดา นกย่อมไม่เห็นฟ้า ปลาย่อมไม่เห็นน้ำ

แต่เพราะหยุด... นิ่ง... แล้วดูนี่เอง หลังจากที่องคุลีมาลได้ฟังธรรม จึงหยุดฆ่า ก่อนที่จะฆ่าแม่ของตนเอง จนกระทั่งที่สุดได้หยุดการเวียนว่ายในสังสารวัฏ เช่นเดียวกับท่านมิลาเรปา ที่หยุดไฟแห่งความแค้น แล้วแปรเปลี่ยนไฟนั้นให้เป็นมหาสมุทรแห่งความเมตตากรุณา

ความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ก็ล้วนเพราะได้หยุด... นิ่ง... แล้วดู

ศักยภาพที่ทำให้มนุษย์เป็นภพภูมิที่เอื้ออย่างยิ่งต่อการตรัสรู้ จึงได้แก่การที่มนุษย์มีความสามารถที่จะ หยุด... นิ่ง... แล้วดู นี่เอง

นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไม พระสถูปของชาวเนปาลจึงมักมีสัญลักษณ์รูปดวงตาประดับอยู่

ในโลกที่เรากำลังพูดกันถึงแต่เรื่องตัวเลขความเติบโตทางเศรษฐกิจ ผลผลิตมวลรวมประชาชาติ ความมั่นคงทางการเมือง ประชาธิปไตยที่แท้จริง สิทธิเท่าเทียมกันระหว่างเพศ การมีอายุยืนถึงหนึ่งร้อยปี การเอาชนะโรคร้ายและความแก่เฒ่า การต่อสู้เพื่อสันติภาพ จะมีสักกี่คนที่จะหยุด... แล้วกลับมาถามตัวเองว่า สิ่งต่างๆ เหล่านั้นเป็น “ความสุข” ที่พึงแสวงหาและควรค่าแก่การครอบครองจริงๆ หรือ

เวลาเพียงสองวันของการประชุม วิทยากรประมาณ 20 ท่าน ผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 200 คน อาจจะดูว่าเล็กน้อย แต่สิ่งที่ฉันเห็นได้ชัดเจนด้วยตา และสัมผัสได้แจ่มชัดด้วยใจก็คือ จิตใจที่แสวงหาว่าอะไรคือความสุขที่แท้จริง เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่แต่ละคนมีโอกาสได้หยุด... นิ่ง... แล้วดูชีวิตของตนเอง เพื่อหาความหมายของความสุข หา “เสาเข็ม” ของความสุขในชีวิตที่มองไม่เห็น และแม้แต่ตัวเองก็อาจจะไม่เคยนึกถึงมาก่อน แล้วนำความสุขนั้นมาแบ่งปันแก่กันด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่ เป็นความสุขของการให้ การรับ และการตอบแทน ดุจผีเสื้อกับดอกไม้ที่ต่างเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันและกัน

ฉันได้สัมผัสกับความสุขที่ไม่ต้องมีคำอธิบาย เหมือนเมื่อเห็นสีแดง ก็รู้ทันทีว่านั่นคือสีแดง

เช่นเดียวกับอาจารย์กฤษดาวรรณ ครูของฉัน ชีวิตที่ผ่านมาเป็นสุข สงบ และงดงามตามสมควรอยู่บนหนทางนี้ได้ ก็เพราะครูทั้งหลาย นับตั้งแต่พ่อและแม่ผู้เป็นครูประเสริฐสูงสุด แต่ฉันอาจจะโชคดีกว่านั้น เพราะมีครูที่มิได้เป็นแต่เพียงครูทางโลก แต่เป็นครูทางธรรม ที่ได้นำต้นไม้แห่งชีวิตนี้ลงปลูกในกระถางที่มีดินอุดมแห่งปัญญา แล้วรินรดน้ำแห่งความกรุณาให้ต้นไม้ต้นเล็กๆ นี้ด้วยศรัทธาและเมตตาจนชุ่มเย็น

ปัจจุบันขณะที่ได้ตื่นขึ้น ประจักษ์แจ้งความงามของรุ้งทอประกายเลื่อมพรายในหยดน้ำมันแห่งจิตใจ ความสุขเล็กๆ อันเกิดจากการหยุด... นิ่ง... แล้วดูนี้ ขอน้อมถวายแด่องค์คุรุ ผู้เป็นบรมครู เป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวแท้จริง ตราบจนถึงการตรัสรู้

ขอเมล็ดพันธุ์แห่งความสุขที่เราทั้งหลายตั้งใจหว่านนี้ จงงอกงามดำรงชั่วกาลนาน

จัมปา ญีมา

1 comment:

Anonymous said...

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับบทความดีๆที่นำมาแบ่งปันให้กัน